เที่ยวบุรีรัมย์ เมืองปราสาทสองยุค เดินทางไปกับแอร์เอเชีย
สวัสดีคะ
รอบนี้เที่ยวเมืองไทย (กันอีกแล้ว) ทริปนี้พาขึ้นอีสานใต้กันนะคะ “จังหวัดบุรีรัมย์” โดยส่วนตัวถือเป็นครั้งที่2 ของการเดินทาง ครั้งแรกคือไปเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว (ไปงานแต่งงานน้องรักที่ออฟฟิศ) โดยเช่ารถตู้ขับไปจากกรุงเทพฯ แล้วก็กลับมาเยือนอีกครั้งในวันที่ 2-3 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา
เราเดินทางด้วยเครื่องบิน ของสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นเที่ยวบินรอบปฐมฤกษ์ ซึ่งเป็นเที่ยวบินรอบแรกที่บินไปที่จังหวัดบุรีรัมย์คะ เปิดตัวมาด้วยราคาโปรโมชั่นเพียงแค่ 590 บาท หากใครสนใจเดินทางก็เช็คที่ www.airasia.com ได้เลยคะ มีบริการ 1 เที่ยวบินต่อวันไปและกลับ
ขาไปจากดอนเมือง – บุรีรัมย์ 12.25 – 13.20 น.
ขากลับจากบุรีรัมย์ – ดอนเมือง 14.05 – 15.00 น.
หลัง Check In เสร็จ ระหว่างทางเดินเข้า Gate ?เจอ Mascot ?Airasia ก็ขอสักภาพนะคะ ผมยาวมากเลย 555+
ปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงจังหวัดนี้ นอกจากเป็นเมืองแห่งปราสาทหินพนมรุ้งแล้ว คงจะหนีไม่พ้นความโดดเด่นในเรื่องเมืองแห่งการกีฬา เพราะไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอล I-Mobile Stadium แล้วยังมีสนามรถแข่งรถ Chang International Circuit มาตรฐานโลก จัดได้ว่ายิ่งใหญ่มากๆ
การเดินทาง : www.airasia.com?ดอนเมือง-บุรีรัมย์
ที่พักแรม : อมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ระยะเวลา : 2 วัน 1 คืน
Facebook Fanpage : TATSurinOffice
ผู้เขียน : Daopentor
คำขวัญของจังหวัดบุรีรัมย์
“เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม”
จังหวัดบุรีรัมย์ 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
FD3520 Boarding เวลา 11:45 เราก็เดินหน้ามุ่งสู่ Gate 45 กันเลย ระยะเวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ก็ถึงบุรีรัมย์กันแล้ว บนเครื่องมีบริการอาหารที่เตรียมสั่งไว้ล่วงหน้า เมนูสุดโปรด ทุกครั้งของการเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียนี้ เรามักจะสั่งอหาร (Prebook meal) 2 เมนู นี้เป็นประจำคะ
๐ ลาซานญ่าไก่ (Chicken Lasagne)
๐ ข้าวกระเพราไก่
แล้วรอบนี้ก็ได้กินทั้ง 2 เมนูนี้สมใจ ^ ^
ต้องบอกว่า “ลาซานญ่า” ถือเป็นเมนูขายดี และโดนใจคนส่วนใหญ่รวมถึงดาวด้วย ?แต่สำหรับเมนูนี้ปริมาณมันน้อยไปหน่อย จึงต้องเบิ้ลเป็นสองเมนู เพราะเราเป็นมนุษย์สายแข็ง มาแรงแซงทางโค้งตลอดเรื่องกินๆ 555+
ถึงสนามบินบุรีรัมย์ เวลาประมาณ 13.30 น. เรานั่งรถตู้ไปเพื่อมุ่งหน้าไป “สนามกีฬา I-Mobile Stadium” ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินถึงสนามกีฬาประมาณ 40 นาที เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเยือนสนามกีฬาแห่งนี้
โอ้วว้าว เราได้เจอพี่โดม ปกรณ์ ลัม ด้วย! จริงๆเห็นตั้งแต่เดินขึ้นเครื่องเข้ามาแล้ว จะขอถ่ายรูปบนเครื่องก็เกรงใจแอร์ 555+ ขณะรอกระเป๋าขอใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์กันเสียหน่อย
เดินเข้าไปด้านในอาคาร ก็มีทั้งการแสดงพื้นเมืองและพนักงานมาต้อนรับกันอย่างครื้นเครง ^ ^
ณ สนามฟุตบอล I-Mobile Stadium
เก็บภาพ”ฟ้า”และ”ต้นไม้” ที่อยู่ด้านหน้าสนามฟุตบอล มาให้ดูกันจ้า งดงามไหมจ้ะ
เมื่อเปิดประตูทางเข้าสนามฟุตบอลมา เจอภาพนี้ ?เป็นภาพที่ทุกๆที่ต้องมีจริงๆ ^ ^
พระบรมฉายาลักษณ์ยิ่งใหญ่และสวยงามมากๆ
วันนี้อากาศร้อนมั่กๆ แต่เนื่องจากดาวเป็นคนคลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลมากกว่าผู้หญิงทั่วไป ทำให้อากาศไม่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าไปดูแต่อย่างใด แทบอยากลงสนามไปซ้อมเตะเอง แต่ส่วนใหญ่ดูบอลอังกฤษคะ เพราะนักบอลหน้าตาดีๆทั้งน้าน (เอ๊ะ ชอบกีฬาหรือนักกีฬากันแน่ 5555) แต่บอลไทยก็เชียร์สุดใจเหมือนกันนะ ถือว่าสนามฟุตบอลที่นี่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ภูมิใจกับคนไทยมากๆ
ขอสักภาพนะคะ ?เก็บเป็นที่ระลึก เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนสนามฟุตบอล?I-Mobile Stadium ที่ยิ่งใหญ่ ระดับมาตรฐานโลก
เป็นภาพถ่ายจากด้านบนอัฒจันทร์
ขอบรรยายด้วยภาพ ว่ามันสวยขนาดไหน หญ้าที่ใช้ในสนามนี่เป็นหญ้าจริงทั้งหมดนะจ้า
สนามนี้จุคนดูได้ประมาณ 32,500 คน (เยอะมาก) บัตรราคาอยู่ประมาณ 120 บาท , 140 บาท เป็นต้น
*พื้นที่ทั้งหมดนี้รวมประมาณ 1,200 ไร่ ?มีทั้งสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถ*
หลังจากไปเกาะขอบสนามฟุตบอลกันมาแล้ว เราก็เข้าไปเดินชมด้านในกันต่อ ซึ่งมีหลายชั้นแบ่งเป็นหลายโซน ไม่ว่าจะเป็น ห้องแถลงข่าว ห้องอาบน้ำนักกีฬา ห้องประชุม เป็นต้น
ณ ห้องน้ำอาบนักกีฬา มีฟักบัวแบบเล่นระดับด้วยคะ 555+
จบเรื่องในสนามกันแล้วมาต่อเรื่องนอกสนามกันบ้าง ก่อนจะเปลี่ยนไปสนามแข่งรถ เราก็แวะไปดูสินค้าร้านจำหน่ายสินค้ากีฬาต่างๆ
ตัวสีน้ำเงินด้านล่างนี้ชอบมาก แต่ไม่มี size เลย”อดเป็นเจ้าของ”
ร้านของที่ระลึกของเพียบเลย เราก็สอยมา…ด้วยหนึ่งตัวสำหรับตัวเอง ราคาเสื้อ?400 บาท พร้อมปักชื่อ และเบอร์เพิ่มอีก 140 บาท รวมแล้วราคาเพียง 540 บาท
เป็นปลื้มมั่กๆเมื่อได้เสื้อพร้อมชื่อตัวเอง ^^ เรื่องชอปปิ้งไม่พลาดอีกแล้วเรา
ชำระเงินกัน ที่แคชเชียร์เลย
ณ สนามแข่งรถ Chang International Circuit (CIC) ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่ถ้าเดินคงจะไกลไป คณะเราจึงตามคำแนะนำของ”พี่มด”ว่าให้นั่งรถไป เสียงดังมาก ได้ยินเสียงแต่ไกล ตั้งแต่ยังไม่ถึงสนามเลย ความรู้สึกตอนที่ได้ยินเสียงตื่นเต้นมากๆ เพราะเรายังไม่เคยได้สัมผัสสนามแข่งรถมาก่อนคะ ^ ^
เก็บภาพเป็น VDO มาให้ดูกันด้วยนะจ้า ตาม link นี้เลย upload ไว้บน youtube ให้เรียบร้อยแล้ว
ดูความเร็วแบบมันส์ๆที่นี่ ?http://youtu.be/XGbsE9ekUqw
* ความยาวของ VDO 01:20 นาที *
รถแข่ง เจ๋งๆ
สนามแข่งรถ Chang International Circuit ถือเป็นสนามมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐานระดับโลก โดยเป็นสนามเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานระดับ FIA Grade1/FIM Grade A ?และเป็นสนามเดียวในโลกที่ผู้ชมบนแกรนด์สแตนด์สามารถมองเห็นภาพการแข่งขันได้ทุกโค้งของสนาม
หลังจากเราเดินเยี่ยมชมสนามกีฬาฟุตบอลและแข่งรถกันแบบเต็มๆ ทั้ง 2 แบบ 2 สไตล์ กันแล้ว ก็ได้เวลามื้อเย็น ซึ่งร้านที่เราจะไปหม่ำกันนั้น มีชื่อร้านว่า”บ้านชายน้ำ” เวลาแห่งความสุขสันต์ของดาวก็เริ่มขึ้น……..
ภาพบรรยากาศร้านบ้านชายน้ำ
๐ มีวงดนตรีเล่นสดด้วย
๐ โต๊ะที่นั่งมีหลายๆแบบ มีทั้ง Indoor & Outdoor
๐ อาหารหลากหลาย รวมทั้งอาหารพื้นเมือง
รายการอาหารที่หม่ำ
1.ไข่เจียวห่อหมก
2.ไก่คั่วตะไคร้
3.แกงคั่วเนื้อปู + หมี่
4.ปลาทับทิบแดดเดียว
5.ยำยอดมะพร้าวกุ้งสด
6.ตะกร้าชายน้ำ
7.ต้มกระดูกแก้วหน่อไม้ดอง
8.ผลไม้รวม
จานนี้นำเสนอคะ อร่อยจริงๆ เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้ด้วยนั่นคือ “ไข่เจียวห่อหมก”
สารพัดของทอด รวมอยู่ในจานนี้คะ เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ข้าวเกรียบกุ้ง, เฟร้นข์ฟรายด์ และเผือกทอดอร่อยฟินเวอร์ รวมกันชื่อ”ตะกร้าชายน้ำ”
Website : บ้านชายน้ำ
หลังจากอิ่มท้องกันแบบเต็มเหนี่ยว เราก็มุ่งหน้าเข้าที่พัก”โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เพื่อ Check-In และตั้งใจเลยว่าจะรีบนอน 555+ (พรุ่งนี้เช้าล้อหมุน 04.00 น.)
บริเวณด้านหน้าห้องพัก “โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
ภาพถ่ายด้านในห้อง
๐ เตียงนอน ใหญ่มาก (หลับสบาย 555+)
๐ มีอุปกรณ์ให้มากมาย ที่แน่ๆ และไม่ค่อยเห็นในโรงแรมจากที่เราไปเที่ยวมา มันคือ เตารีด (คาดว่ากลุ่มคนที่เข้าพัก อาจจะมาอยู่หลายวัน ทางโรงแรมเลยมีไว้บริการ)
๐ น้ำแรง ทดสอบแล้ว (ชอบโรงแรมน้ำแรงๆ)
ทริปนี้ไม่ได้เปิดเลย เนื่องจากต้องตื่นเช้า กิจกรรมในห้องคือ อาบน้ำแล้วนอน ^ ^
ปิดทริปวันแรกด้วยภาพห้องนอนของเรา ^^
04.00 น.เช้าวันที่2 ก็เริ่มขึ้นแบบตรงเวลาฝุดๆ เรามุ่งหน้าไป “ปราสาทหินพนมรุ้ง” ระยะทางห่างจากโรงแรมประมาณ 70 กิโล โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ
ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ วันนี้มีการทำพิธีบวงสรวงที่ “ปราสาทหินพนมรุ้ง”
วันนี้ทั้งนักท่องเที่ยวและพี่ป้าน้าอาในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ล้นหลามเนื่องจากมารอดู “แสงพระอาทิตย์ลอดผ่านประตูปราสาทหินพนมรุ้ง” สิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ใน 1 ปี จะเกิดขึ้นเพียง 2-3 วัน เท่านั้น ซึ่งมีความเชื่อว่ากันว่า ถ้าได้มาเห็นและยืนรับแสง จะทำให้ได้รับพลัง และเป็นสิริมงคลกับชีวิต
เดินขึ้นมาจากด้านล่าง มาถึงด้านหน้าปราสาทหินพนมรุ้ง ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน ^ ^
เราอ้อมมาด้านหลัง เพื่อมาดู”แสงพระอาทิตย์ลอดผ่านประตู” เห็นผู้คนแน่นขนัดยืนต่อคิวเพื่อรอชมเช่นเดียวกับคณะเรา
ดาวโชคดีมากที่ได้มาเห็นแสงพระอาทิตย์ลอดผ่านประตู แต่ไม่สามารถถ่ายรูปเก็บมาให้ดูกันนะคะ เนื่องจากคนเบียดกันมาก ถ่ายไปติดแต่กล้องที่ทุกคนก็หยิบขึ้นมาถ่ายเช่นกัน 555+ และจริงๆแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก จึงอยากให้เพื่อนๆได้มาเห็นด้วยตัวเอง
ภาพนี้จะเห็นชัดที่สุดแล้ว ช่องประตู ที่รอการลอดของแสงพระอาทิตย์ ดูจากภาพมีแต่กล้องมือถือเป็นไปหมดเลย
พยายามแล้วแต่ถ่ายมาได้แค่นี้เอง ให้เพื่อนๆเห็นว่า เวลาเห็นแสงพระอาทิตย์ลอดมา จะมองจากจุดไหน
เจอพี่โดม ปกรณ์ ลัม อีกแว้ว?มาทำพิธีบวงสรวงประจำปีนี้ด้วยคะ
ด้านข้างของปราสาทหินพนมรุ้ง
เสร็จจากการไหว้และกิจกรรมต่างๆที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง เราก็เตรียมท้องไปหม่ำอาหารเช้ากันต่อ
อาหารเช้า ณ ร้านกวางเจา อำเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ (ร้านอยู่ตรงข้ามโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม)
เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้คือ “ข้าวหมูแดง” อาหารเป็นสูตรจีนกวางตุ้ง เปิดบริการมากว่า 40 ปี และมีเมนูอื่นด้วยจ้า
๐ ข้าวหมูกรอบ
๐ โจ๊ก
๐ ต้มเลือดหมู
๐ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง หมูกรอบ
๐ เกี้ยวหมูแดง
ขอแนะนำ?”ข้าวหมูแดง” เมนูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาของร้านกวางเจา เพราะหมูแดงเป็นหมูที่ผ่านการย่างมาอย่างดีและหมักด้วยสูตรจีนกวางตุ้ง หรือแม้กระทั่งน้ำจิ้มที่เผ็ดเค็มหวาน ทานคู่กันกับข้าวหมูแดงรสเลิศ มันช่างเข้ากันจริงๆ อยากจะห่อกลับบ้านสัก 10 กล่อง
ประทับใจ”น้ำจิ้ม” ถ่ายมาให้ดูกันแบบเต็มๆ โถ
ต่อกันอีกชาม เกี๊ยวน้ำหมูแดง ชามนี้ก็อร่อย แต่น้ำซุปจะมีรสจืดแบบสูตรจีนดั้งเดิม (ส่วนตัวว่าจืดไปหน่อย)
พิกัดความอร่อย ณ ร้านกวางเจา จังหวัดบุรีรัมย์
เวลาเปิด – ปิด : เปิดเช้าตรู่ ?ปิด 15.00 น (ตอนถามว่าเปิดปิดกี่โมง พี่เค้าตอบว่าเช้าเลย ไอ้เราก็ลืมถามระบุว่ากี่โมง)
อิ่มหมีพีมันกันแล้ว ก็ขอแวะเติมคาเฟอีนกันหน่อย ขับรถไปไม่นานก็ถึงแล้ว ณ ร้านคาเฟ่ เดอ บู ไดนิ่ง [Caf’e Du Bu Dining]
สั่งกันเลยคะ “เอสเปรสโซ่เย็น” ไม่หวาน
ดื่มไปแล้วสดชื่น ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสมาร้านนี้ ไม่ต้องสั่งว่าไม่หวานนะคะ สำหรับ”เอสเปรสโซ่” แก้วนี้ เพราะการจากดื่มแล้ว สรุปได้ว่าทางร้านชงไม่หวานอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เราเองก็ไม่เคยทานร้านนี้ ประกอบกับความกลัวส่วนตัว เลยติดปากตลอดว่าไม่หวาน …. มันเลยเข้มมากไปนิด 555+
บรรยากาศร้านน่ารักคะ มีที่นั่งหลายโต๊ะ
สถานที่ต่อไปหลังเสร็จ “ภาระกินพิชิตความอยาก” ก็เป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งที่ ในอำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์
พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่1
ชุดไหว้ ที่ใช้สักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชการที่1 “ดอกดาวเรือง,ธูป,เทียน”
หลังได้กราบสักกะระ บูชาพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชการที่1 ที่อยู่ในใจกลางเมืองบุรีรัมย์ กันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหม่ำอีกแล้ว…ตั้งใจรอหม่ำเลยทีเดียว อิอิ
“ร้านไก่ย่างสีดา”
มื้อนี้สั่งกันเพียบเลยทีเดียว โดยเฉพาะส้มตำ สารพัดส้มตำ ^^
๐ ไก่ย่าง (แน่นอนว่าต้องสั่ง)
๐ ส้มตำไทย
๐ ส้มตำปู
๐ ส้มตำปูปลาร้า
๐ ส้มตำไข่เค็ม
๐ น้ำตกหมู
๐ ห่อหมกไข่ปลา
๐ ห่อหมกหมู
๐ แกงเห็ด 3 อย่าง
๐ ปลาส้มทอด
๐ ยำหอยแครง
จานแรกกันเลย ไก่ย่าง แน่นอนว่าคงเป็นเมนูเด็ดประจำร้าน เพราะชื่อร้านมันฟ้อง ซึ่งมันก็ใช่เลยจริงๆ ไก่ย่างแห้งหนังกรอบ อร่อยกันอีกแล้ว
น้ำตกหมู ข้าวคั่วหอมดีจุง
หม้อนี้ สารพัดเห็ด
น้ำตาจิไหล เผ็ดมากจานนี้
จานนี้แปลกดีคะ ไม่เคยทาน อร่อยดี เป็นเมนูแนะนำเช่นกัน “ห่อหมกไข่ปลา”
พิกัดความอร่อย ร้านไก่ย่างสีดา จังหวัดบุรีรัมย์
เวลาเปิด-ปิด 9.00 – 15.00 น.
อิ่มกันจนเพลีย 555+ ไปหาความรู้กันต่อดีกว่าคะ ที่ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ จังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นสถานที่สุดท้ายของทริปบุรีรัมย์ครั้งนี้ มีความสวยงามและมีทั้งโบราณวัตถุ โบราณสถาน ประวัติความเป็นมาทั้งหมดของจังหวัดบุรีรัมย์
ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ในมหาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมและการแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ?ประกอบไปด้วยอาคาร 2 ชั้น
ได้รับเกียรติจาก อาจารย์กิติสา วงศ์คำ เป็นวิทยากรในการบรรยายและให้ความรู้ในครั้งนี้ ^ ^
ทุกคนฟังบรรยายอย่างตั้งใจ ^ ^
ภาพมุมนี้ถ่ายจากชั้น1 ขึ้นชั้น2 ในศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ จังหวัดบุรีรัมย์
โบราณวัตถุ
แผนที่ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้
ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน จังหวัดบุรีรัมย์กันแล้ว ใช้เวลาเดินทางจาก ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ ไปสนามบิน ประมาณ 40 นาที
ขณะรอ Check In?ก็เก็บข้อมูลโปรโมชั่นมาฝาก
Airasia มีโปรโมชั่นลดทันทีที่เข้าชมการแข่งขันฟุตบอล 50% เมื่อแสดง Boarding Pass
ก่อนขึ้นเครื่องบินกลับสนามบินดอนเมือง เราก็ทำกิจกรรมร่วมกับทุกคน นั่นคือถ่ายภาพทั้งคณะเราเป็นที่ระลึก แดดจัดมากแต่ทุกคนก็พร้อมเพรียงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ^ ^
ทุกทริปของการเดินทาง จะมีเสน่ห์ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป จะเป็นจังหวัดไหนหรือประเทศใดก็ตาม ดาวมีความสุขและสนุกกับการเดินทาง ได้มีมุมมองใหม่ๆมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวที่ได้จากการเดินทางให้กับเพื่อนๆทุกคน แต่มันจะดีแค่ไหน ถ้าเพื่อนๆได้เริ่มออกเดินทาง ค้นหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ^ ^
แล้วแจอกันใหม่ในทริปต่อๆไป จะพาไปซ่าส์กันต่อที่ไหน ติดตามกันได้ทุกทริปคร่า?^ ^
No Comment