รวมที่กินที่ซุกหัวนอน โตเกียวทริป
H e l l o J a p a n
ตะลอนเที่ยว ตะลอนกิน ตอน2 รีวิวนี้จะเน้นเป็นร้านอาหาร และที่ซุกหัวนอนในโตเกียวและคาวากูจิโกะ มามะมาดูกัน
เส้นทางการเดินทางของรูทนี้ “โตเกียว” “คาวากูจิโกะ” ทริปสั้นๆ 5 วัน [ตอน2]
เวลาเดินทาง 23 พฤศจิกายน – 28 พฤศจิกายน 2016
สายการบิน : ThaiAirAsiaX [Terminal2] นั่ง HotSeat
Roaming : TruemoveH [รองรับเครือข่าย NTT Docomo & Softbank]
ที่ซุกหัวนอน : 4 คืน (โตเกียว3 คืน,คาวากุจิโกะ1 คืน)
– Shinjuku Prince Hotel
– Grand Prince Hotel Takanawa
Kawaguchiko Hotel
ประกันการเดินทาง : MSIG [เบี้ยหลักร้อย จ่ายหลักล้าน]
บัตรรถไฟ : ไม่ได้ซื้อพาสใดๆ [ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางแต่ละ route]
Application [ใช้ในการเดินทาง]
Hyperdia
Google Map
ตรวจสอบอัตราค่าบริการบนเว็บไซด์
Application TrueMove H Roaming
สายการบินที่ใช้บริการครั้งนี้ ThaiAirAsia
บินคุ้มคุณภาพครบ
ประกันภัยการเดินทาง MSIG
มีทั้งแบบรายครั้ง และ รายปี ส่วนตัวแน่นอนคะ เดินทางต่างประเทศมากกว่า 1-2 ครั้งต่อปี บวกลบคูณหารแล้ว ยังไงก็คุ้มค่ากว่าเลยตัดสินใจทำแบบรายปี เพราะการเดินทางไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซื้อความปลอดภัยดีกว่า
สอบถามบริการผ่านเว็บไซด์ได้เลยที่นี่
—————————————————————————————
ที่ซุกหัวนอน
—————————————————————————————
โตเกียวเป็นเมืองใหญ่มาก แน่นอนว่าเราต้องเลือกโรงแรมในย่านที่เราพัก รอบนี้ของเราก็ “Shinjuku” “Shinagawa” “Kawaguchiko”
Shinjuku Prince Hotel
ถือเป็นย่านที่สะดวกสบาย ในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการต่อรถไฟไปเที่ยวรอบๆเมืองโตเกียว ที่ช้อปปิ้ง ที่กิน มีทุกสิ่งให้เลือกสรร รวมถึงโรงแรม shinjuku ถือได้ว่าเป็นที่พักสุดฮอตฮิตอันดับต้นๆเลยทีเดียว นอกจากห้องพักดีงามแล้ว ในเรื่องการบริการอื่นๆ เช่นการฝากกระเป๋า การเช็คอิน การให้ข้อมูลร้านต่างๆบริเวณใกล้ๆโรงแรม ทำให้เราเที่ยวได้อย่างสบายใจเพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มาพักที่ Shinjuku Prince Hotel แห่งนี้
มาดูบรรยากาศต่างๆ ภายในโรงแรมกันเถอะ
ทางเดินขึ้นมาห้องพัก ห้องพักเยอะมากๆ ซึ่งก็เต็มหมดทุกห้อง
แบบเตียงคู่
มุมเอนกประสงค์
ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ Prince Viking
มื้อกลางวันคนเต็มห้องอาหาร ทำให้วันแรกที่ไปถึงตั้งใจจะหม่ำก็ต้องพลาดไป วันหลังถ้าได้มีโอกาสไปพัก ต้องจัดแน่นอน
ที่ช้อปปิ้ง นอกจากจะสามารถข้ามถนนออกมาจากโรงแรมแล้ว ชั้นบนตึกของโรงแรมคือ ห้าง PePe > เซบุชินจูกุเปเป > แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นและอื่นๆมากมาย ช้อปมาแล้วโดนใจในเรื่องราคาสุดๆ
ข้อมูลที่พักโดยสังเขป
๐ From Shinjuku Station เดินมาโรงแรม ประมาณ 7-8 นาที
๐ Check-in 13:00 น.ซึ่งเร็วกว่าโรงแรมอื่นๆ ที่เราเคยพักมา
๐ มีน้ำดื่มบริการตลอด 24 ชม อยู่ทุก floor
๐ เดินออกมาจากโรงแรมก็ช้อปปิ้ง & ที่กิน เยอะมาก
๐ โปรแกรมดึกแค่ไหนไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย โรงแรมตั้งอยู่จุดศูนย์กลางมากๆ
Grand Prince Hotel Takanawa [Shinagawa Station]
เป็นอีกย่านศูนย์กลางเมืองโตเกียวอีกแห่ง โดยเฉพาะเดอะแก้งส์ที่ต้องการจะเดินทางไปไหนต่อ เพราะย่านนี้ใกล้กับสถานบิน Haneda มากๆ ซึ่งทางโรงแรมมีบริการรถรับส่งไปสนามบินได้เลย ไม่ว่าจะเป็นที่ Hanada หรือ Narita ถือได้ว่าสะดวกสบายและโดนใจสุดๆ กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระเยอะ หรือเดินทางมาเป็นครอบครัว ที่มีเด็ก พ่อ-แม่ ไม่ต้องไปต่อรถไฟหรือหิ้วกระเป๋าให้ลำบาก
ตามมาดูห้องพักกัน กว้างใหญ่ หรูหรา สุดๆ ความสะดวกสบายมันดีเช่นนี้เอง 555+
ตู้เสื้อผ้า
Complimentary Room
ถ่ายห้องนอน หลักล้าน >>> Tokyo Tower นะฮ้าบ
Lounge [มุมขนม & เครื่องดื่ม]
Japanese style room ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น
ในส่วนนี้จะเป็นโซนที่แยกออกมาจากห้องพักแบบทั่วไป ทั้ง ห้องอาหาร,เลาท์ เป็นต้น ซึ่งถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์และส่วนตัวมากๆ
ห้องส่วนตัว
Breakfast
Breakfast มีครบทุกประเภทอาหารให้เลือกสรร “อาหารเช้าสำคัญ” ถ่ายมาให้ดูได้แต่จานตัวเองนะคะ เพราะการถ่ายภาพในสถานที่ส่วนตัวเช่นนี้ อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
โรงแรมเข้ามีรถรับส่งบริการฟรี > Shinagawa Station (ทุกๆ 20 นาที)
ข้อมูลที่พักโดยสังเขป
๐ Shinagawa Station เดินมาที่พักประมาณ 8-9 นาที
๐ ห้องกว้างในเกณฑ์ดีงาม วิวแจ่ม มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์
๐ ทางโรงแรมมีบริการ Shuttle Bus & Shinagawa Station ฟรี ?ออกทุกๆ 20 นาที (ไปและกลับ)
๐ ทางโรงแรมมี Airport Limousine Bus 2 สนามบิน Narita & Haneda [Narita = adult 3,100 เยน & child 1,550 เยน , Haneda = adult 720 เยน & child 360 เยน]
๐ ไปสนามบิน สะดวกทั้ง Narita & Haneda *โดยเฉพาะ Haneda Airport
Kawaguchiko Hotel
ด้านหน้า Lobby
บริเวณด้านในห้องพัก
ห้องค่อนข้างกว้าง แลดูอาจจะเก่าไปสักนิด แต่สะอาด และอยู่ในจุดที่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆที่ Kawaguchiko
หากหิวก็สามารถเดินมาที่ Lawson ได้ ไม่ไกลจากตัวโรงแรม
ข้อมูลที่พักโดยสังเขป
๐ Check-in บ่าย 3 โมง [ฝากกระเป๋าได้ที่ lobby]
๐ ห้องพักค่อนข้างกว้าง สะอาด พวกเฟอร์นิเจอร์การตกแต่งจะดูเก่าไปสักนิด
๐ จุดที่ตั้งของโรงแรมค่อนข้างสะดวก ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของโรงแรม รวมถึงป้ายรถเมล์ต่างๆ
๐ มีบริการรถรับส่ง จากโรงแรมไปที่ Kawaguchiko Station [สอบถามเรื่องรอบเวลาต่างๆที่ lobby ได้เลย]
—————————————————————————————
ที่กิน
—————————————————————————————
@Tokyo
Rokkasen ร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์
ถือได้ว่าเป็นร้านฮอตฮิต อีกร้านมีทั้งว่าไม่คุ้มและคุ้ม ก็แล้วแต่มุมมอง ด้วยความที่เป็นสาวกเนื้อย่างอยู่แล้วเราก็ตกลงว่าจะไปลิ้มลองกัน สิริรวมก็ชอบนะคะ นอกจากเนื้อย่างสารพัดชนิดที่มีให้เลือกแล้ว ปูก็รสชาติดี
จ่ายค่าเสียหายกันไป 14,600 เยน รอบหน้าจะไปหาร้านเนื้อย่างใหม่ๆมารีวิวกัน
ปกติไปโตเกียวจะเน้นเป็นซูชิ มากกว่า
พิกัด : @Shinjuku Sun Flower
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ ถ้าชอบและรับได้ในราคานี้ก็ ไปลองจะได้ซะ (7,000 เยน net)
๐ รสชาติเนื้อระดับกลางๆ แต่มีจุดเด่นในเรื่องซีฟู้ดที่มีด้วย เช่น กุ้ง หอย ปู
๐ การเสริฟ์ ส่วนตัวที่ไปถือว่าช้าไปหน่อย
๐ โต๊ะนั่งค่อนข้างชิดกันไปหน่อย
๐ ต่อคิวประมาณ 40 นาที ถ้าเพื่อนๆจะไปลอง ก็เผื่อเวลาตรงนี้ไว้ด้วย
Obana Unagi โอบะนะ
หน้าร้าน Obana Unagi ถือเป็นครั้งแรกที่มาลิ้มลอง รู้จักจากการแนะนำของน้องเพื่อนที่มาเรียนอยู่ที่โตเกียว
ในร้านห้ามถ่ายรูป เลยไม่ได้เก็บบรรยากาศในร้านมาให้นะคะ เอาเป็นเมนูที่กินแทน เรียกได้ว่าสั่งเกือบทุกเมนูที่ร้านนี้ 555+
Umaki ไข่ม้วนไส้ปลาไหล > อร่อยมว้าก
ปลาไหลย่างเกลือ อร่อยไม่แพ้กับเมนูอื่นๆ
อร่อยทุกเมนู ชอบมาก แต่ราคาถือว่าแพง
สิริรวมร้านนี้สั่งไปแบบหน้ามืดมาก เกือบทุกเมนูจัดมาลอง เพราะแต่ละจานปริมาณไม่เยอะ 15,xxx เยน
พิกัด : Metro @Minami Senju Station
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ อร่อยที่สุดตั้งแต่กินมา
๐ ราคาถือว่าสูง
๐ การเดินทางไกลไปสักนิด ถ้าเทียบจากจุดแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในโตเกียว เพราะเดินทางไปกินอย่างเดียว อาจจะไม่ได้คุ้มค่ามาก ถ้าไม่ใช่สาวกปลาไหลขนาดนั้น
Sushi Zanmai
ซาซิมิ & ซูชิของโปรดที่ซู้ดดดดด
จัดมาเต็มโต๊ะ
ค่าเสียหายมื้อนี้ 7,xxx เยน รสชาติปลาดิบถ้าเทียบกับ มิโดริ ถือว่า มิโดริ อร่อยและคุ้มค่ากว่ามากมาย
พิกัด @Shinjuku
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ ถ้าไม่ใช่คอปลาดิบมาก ก็ถือว่าทานได้
๐ ราคากลางๆ ไปจนถึงค่อนข้างสูง
๐ แต่ถ้าเพื่อนๆที่เคยกิน midori มาแล้ว ก็ต้องบอกว่า midori อร่อยกว่า
Midori Sushi มิโดริซูชิ
มารอคิวทุกครั้งไป ถือเป็นร้านประจำที่มาโตเกียว ก็มิเคยพลาด รอบนี้ 50 นาที เหอๆ
เชฟจัดมาคะ
รัวๆ กินเกลี้ยงไม่มีเหลือ
สิริรวมมื้อนี้ โดนไป 10,xxx เยน คุ้มค่า รสชาติไม่เปลี่ยนดีงาม
พิกัด @Shinbuya
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ รอนานเกิ้น อาจต้องดูช่วงเวลาที่ไม่ใช่มื้อกลางวัน
๐ ซูชิ อร่อย กว่า ซาซิมิ [แปลกใจเล็กๆ ไม่รู้ลิ้นมีปัญหาหรือเปล่านะ 555+]
๐ ราคา คุณภาพ คุ้ม รักเลยร้านนี้
Katsumune
มีอยู่หลายสาขา ความอร่อยแลดูน่าจะแตกต่างกัน เพราะรอบนี้เราไปหม่ำมาที่ ueno ซึ่ง กินแล้วไม่ได้รู้สึกอร่อยมากมาย ดังเช่น ในหลายรีวิวเขียนมา
พิกัด @Ueno
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ ค่อนข้างมันไปสักนิด
๐ ความอร่อยระดับปานกลาง
๐ ราคาไม่แพง เฉลี่ยคนละ 1,2xx เยน
Ringo พายแอปเปิ้ล
ราคาต่อชิ้น 399 เยน
พิกัด Ikebukuro Station [เดินมาจาก station ประมาณ 20 เมตรก็เจอร้านอยู่ซ้ายมือ]
หอม กรอบ อร่อย แต่หวานไปนิสส
มากินกันต่อ
@Kawaguchiko
Lake Side
พิกัด ชั้น2 บน Fancy Shop ติดกับร้าน Cheese Cake Garden
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ เป็นหม้อไฟรสชาติออกจืดไปสักนิด แต่องค์ประกอบอื่นๆโดยรวมถือว่าอร่อยอยู่คะ
๐ โดนเด่นไม่เหมือนใคร ก็อยู่ที่เส้น จะคล้ายๆกับอุด้ง แต่หนากว่า
๐ ราคาเฉลี่ย ต่อคน 1,2xx เยน
Gusto Cafe
พิกัด google map มาได้เลย หน้าร้านมีป้ายรถเมล์
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ มีน้ำดื่มฟรี บริการตัวเอง
๐ รสชาติอร่อย ไปลิ้มลองได้เลย
๐ lunch set menu น่ากินมาก แต่เวลาที่เรามา
Cheese Cake Garden
พิกัด ใกล้บริเวณที่ขึ้น Ropeway
ข้อคิดเห็นส่วนตัว
๐ รสชาติก็แน่นอน นมเนย เน้นๆ อร่อยดีคะ
๐ สั่งมาเป็น set มีชาร้อน กับ Cheese Cake 1 ชิ้น 500 เยน
๐ ดื่มกับชา/กาแฟร้อนๆ เข้ากันเป็นอย่างมาก
๐ มาถึงนี่แล้ว ไปลองได้เลย
ข้อมูลเพิ่มเติมการเดินทางมา Kawaguchiko ที่นี่
ส่งท้ายรีวิว Japan ทริปนี้ด้วย ภาพบรรยากาศ ทั้งที่โตเกียว และ คาวากูจิโกะ
Bye Bye เจแปน แล้วเจอกันใหม่ เร็วๆนี้ จะเป็นเมืองไหน โปรดติดตาม
No Comment