เที่ยวกระบี่ ทริปดี ราคาโดน แบบ Greens Greens
สวัสดีคะ เพื่อนๆ ^ ^
ทริปนี้มาพร้อมกับการเที่ยวทะเลไทยฝั่งอันดามัน จังหวัด “กระบี่” กันแบบ 3 วัน 2 คืน โปรแกรมอัดแน่นและ”ครบเครื่อง”ทั้งดำน้ำ 5 เกาะ ร้านอาหารแนะนำ เดินเล่นตลาดถนนคนเดิน ยามค่ำคืน ชับรถเที่ยวชิวๆในเมืองกระบี่และอ่าวนาง ตามสไลต์สบายๆกับ Daopentor ในจังหวัดกระบี่
การเดินทาง : สายการบินนกแอร์ www.nokair.com? Line ID : NOK AIR
ที่พัก : โรงแรมปกาสัย (Pakasia Resort) อ่าวนาง?www.pakasai.com
เช่ารถ : Car Rental Krabi ?(Line ID krabicarrental) 088-768-1565 ราคาต่อวัน 1,000 บาท
โครงการ 7 Greens?: โครงการ 7 Greens? (Green Heart – Green Logistics – Greens Attraction – Green Activity – ?Green Community – Greens Service – Green Plus)
การเดินทางของทริปนี้ นั่งเครื่อง – เช่ารถขับ 3 วัน
วันเดินทาง > วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2015 ?Flight DD7910 ?10:05 – 11:25 น.
วันกลับ > วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2015 ?Flight DD7915 16:50 – 18:00 น.
ติดตามผลงานทริปอื่นๆที่ www.facebook.com/daopentorpage
ไป ไป เที่ยวกระบี่กันคะ ^ ^
ภาระกิจแรก รับรถพร้อมตรวจสอบและเซ็นต์เอกสารการเช่ารถ ?รอบนี้ก็ใช้เป็น “Toyota Vios” รถเล็กประหยัดน้ำมัน ดีคะ เราไปกัน 4 คน รับรองนั่งสบายมาก
ถ่ายคู่พี่ศุภชัย (Car Rental in Krabi) ก่อนเลย พี่เค้าช่วยหาเช่าเรือที่จะออกทริปดำน้ำแบบคนท้องถิ่นให้ด้วย หลังจากได้เบอร์ก็ติดต่อจองเรือไว้เรียบร้อย ราคามิตรภาพสุดๆ (มีเบอร์แชร์ให้เพื่อนๆกันด้วยแน่นอน)… ขอบคุณพี่ศุภชัยนะคะ
อุปกรณ์สำคัญขาดไม่ได้ ก็มือถือ Samsung Galaxy Note2 พร้อม GPS คู่ใจ ใช้ตลอดการเดินทางกันอีกแล้ว ทำให้ชีวิตนักเดินทางอย่างเราง่ายขึ้นมากๆ ไปหม่ำมื้อกลางวันกันก่อน
ร้านเรือนไม้?
ร้านนี้ก่อนมาเที่ยวกระบี่ เราก็ทำการบ้านเป็นอย่างดีในเรื่องร้านอาหาร 555+ เห็นรีวิวคนพูดถึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของอาหารที่โดดเด่น ในเรื่องการใช้วัตถุดิบอาหารที่ดีมีคุณภาพ สนับสนุนคนท้องถิ่นด้วยกันแล้วยังมีสไตล์การตกแต่งร้านที่แตกต่าง พร้อมการบริการที่ดีเยี่ยม ปริมาณโต๊ะที่รองรับลูกค้ามีประมาณ 15 โต๊ะ เพราะทางร้านสามารถรองรับได้เท่านี้ และต้องการรักษามาตรฐานและคุณภาพให้ได้ ดังนั้น ถ้าลูกค้าเยอะ ก็อดทนรอกันหน่อยนะคะ ของดีของอร่อย ต้องใจเย็นๆ ^ ^
สไตล์การตกแต่งร้าน เน้นวัสดุจากธรรมชาติ ประเภทไม้ไผ่ ต้นไม้ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ กะลามะพร้าว เรียกได้ว่า อิ่มอร่อยไปกับธรรมชาติพร้อมๆกัน ^ ^
เพื่อนๆสัมผัสอาหารด้วย”สายตา”กันไปก่อนนะคะ หากแวะไปก็อย่าลืมไปอุดหนุนร้านนี้อร่อยเลิศ
แนะนำเมนูแรกกันเลย > “น้ำพริกกุ้งสด”?จริงๆ น้ำพริกกุ้งเสียบร้านนี้ก็ดังนะคะ แต่ตัดสินใจสั่ง”กุ้งสด” ครกนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังคะ
ผักเครื่องเคียงนี่เป็น สัญลักษณ์ของอาหารชาวปักใต้ จริงๆ แต่ร้านนี้มีผักที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานบ่อย เช่นสาหร่าย ขมิ้นสด แตงกวา ใบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ใบนี้สรรพคุณนี้มากมาย ทั้งต้านมะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงสามารถลดความดันโลหิตสูงได้ด้วย)
จานต่อไป “สะตอผัดกุ้ง” ?คิดแล้วน้ำตาจิไหล อยากไปเยือนอีกจุง
ถ้วยนี้ เด็ดดวงไม่แพ้กัน “แกงสัมปลาทราย”
ของคาวพอหอมปากหอมคอ กันแล้ว รึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่เราจะไป “เมนูของหวานและเครื่องดื่มกันแล้วน้า”
“ข้าวเหนียวทุเรียน” พร้อม “คาปูเย็น”
เป็นเกียติ ภาพถ่ายกับโกเลี้ยง (เจ้าของร้านเรือนไม้)
Facebook : https://www.facebook.com/ruenmaikrabirestuarant
จองโต๊ะได้ที่เบอร์ : 089-288-3232
เปิดบริการ 2 รอบ ต่อวัน : 10:00 – 15:00 น. & 17:00 – 21:30 น
หลังจากอิ่มกันแล้ว เราก็ขับรถมุ่งหน้าไป “ชุมชุนเกาะกลาง”
การเดินทาง : จอดรถที่ ท่าเรือเจ้าฟ้า ต่อเรือหางยาวไป เข้าชุมชนเกาะกลาง (จากท่าเรือนั่งข้ามไป 5 นาที) ราคาเรือต่อคน 10 บาท
สำหรับชุมชนเกาะกลาง ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยว แต่ส่วนตัวได้ยินชื่อเสียงในเรื่องวิถีชาวบ้านเศรษฐกิจพอเพียงและการใช้วิถีแบบชาวประมง ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จึงเป็นสถานที่แรกของทริปนี้ที่เราตั้งใจจะแวะไปเที่ยวและเรียนรู้วิถีชีวิตในชุมชนเกาะกลางแห่งนี้ ^ ^
ภาพถ่ายแรกเมื่อจอดรถถึงท่าเรีอเจ้าฟ้า จังหวัดกระบี่ ฟ้าโปร่งเป็นใจมากๆ ทริปนี้ไม่เจอฝนเลย
เสื้อชมรมเท่ห์จัง ขอสักภาพนะค้า ^ ^
รีบหยิบกล้องมาถ่ายเลย ภาพนี้ ขนรถมอเตอร์ไซค์ ข้ามเกาะกันน่ารักดี ^ ^
บ่ายวันนี้จนถึงค่ำ ขอเหมารถน้องสุดเข้มคนนี้ ตลอดวันจ้า น้องเค้าคิด 400 บาท (14:00 – 18:30 น) นั่งกัน 4 คน ภาพที่ขาดไป เป็นตากล้องคู่หูคู่ใจของคณะ Daopentor เรานี่เอง
โปรแกรมการเที่ยวชุมชุนเกาะกลางของตลอดบ่ายมีดังนี้
1.กลุ่มเรือหัวโทงจำลอง : หากสนใจต้องการเรียนรู้ และ เยี่ยมชม ในชุมชนเกาะกลางแห่งนี้ ติดต่อบังโรจน์ 081-569-0224
2.กลุ่มชาวนาข้าวสังข์หยด
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะ
จุดแรกเราได้บังโรจน์ เป็นไกด์แนะนำ ในกลุ่มเรือหัวโทง และภาพรวมๆของชาวบ้านชุมชนเกาะกลาง
ภาพนี้คือ เรือจำลอง 5 ขั้นตอน ของการผลิตเรือหัวโทงจำลอง ตั้งแต่ ลำที่ 1 ไปจนถึง ลำที่ 5
ช่วงเดือนที่เราแวะไปเที่ยว เป็นช่วงที่ไม่ใช่การปลูกข้าว ดังนั้นพี่ป้าน้าอา เขาก็มาทำประมงแทน ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพหลักกันด้วยคะ
เด็กๆในชุดนักเรียนยิ้มใส่กล้องกันทุกคน ยกเว้นพี่คนขับ ถ้าพี่หันมายิ้ม ตากล้องคงไม่สบายใจเท่าไหร่ 555+
พื้นที่นี้ จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว มาวาดลวยลายลงสี “ผ้าปาเต๊ะ” กันอย่างสนุกสนาน เราก็คนหนึ่ง…ต้องขอลองกันหน่อย
ส่งท้ายวิวยามๆ ยามพระอาทิตย์กำลังตกดิน
อุปกรณ์คู่ชีพครั้งนี้ “ความเหมือนที่แตกต่าง” CANON
ฟี่กันหน่อย > ไม่ทันรัยเห็นจากสีคล้ำของใบหน้าแต่ละทัน เริ่มขึ้นแล้ว เพียงแค่วันแรกเท่านั้น 555+
ขอบคุณพี่ป้าน้าอา ที่ให้การต้อนรับคณะเราเป็นอย่างดี ได้ความรู้ ไปมากมาย ซึ่งทางชุมชนเกาะกลางแห่งนี้ ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด นอกจากอยากให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ที่ได้มาเยี่ยมเยือน หากต้องการสนับสนุนก็คงเป็นเรื่องของการซื้อผลิตภัณฑ์ ของแต่ละชุมชนเหล่านี้ ดังเช่นเราที่อุดหนุนหิ้วกันมาจากกระบี่มาถึงกรุงเทพฯ กันเลยทีเดียว
ชุมชนเกาะกลางแห่งนี้ เป็นความประทับใจที่มาเยือนอย่างมาก ชาวบ้านที่นี้ มีแต่รอยยิ้มมอบให้ พี่ป้าน้าอาดูมีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง และคนที่นี่เค้าฉลองทุกเทศกาลกัน อย่างสนุกสนานโดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่อย่างใด สุขด้วยสุขภาพดีด้วย ^ ^
หลังจากขึ้นมาเอารถที่จอดไว้ “ท่าเรือเจ้าฟ้า” เราก็ขับรถไปใกล้ๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ “ถนนคนเดิน” จังหวัดกระบี่ มีของกินของซื้อ ผู้คนมากมาย แต่ที่จอดรถหายากพอสมควรนะคะ ต้องพยายามหาที่จอดแล้วใช้เดินมาตลาดเอาจะเป็นสิ่งที่ง่ายและแนะนำที่สุดคะ
ร้านแรกอยากกินตามใจปาก > ขนมจีนน้ำยาปู ผักเพียบ ชอบๆคะ ร้านในถนนคนเดินนี้ อร่อยมากเลย มีน้ำยาให้เลือกประมาณ 4-5 อย่าง จานละ 40 บาท เอง อิ่มจริงๆ
ประเภทของน้ำยา ก็มีตั้งแต่ น้ำยาปู น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก เขียวหวาน (บางช่วงอาจแตกต่างกันไปนะคะ) น้ำยาที่เราเลือกหม่ำก็”น้ำยาปู”
ขนมจิ๋ว กระทงนี้ 10 บาท ลองซื้อมาหม่ำหลังอิ่มและเผ็ด จากน้ำยา ก็อยากต่อด้วยของหวานปิดท้ายกันหน่อย
แนะนำอีกร้าน เป็นร้านขายยำ คนเยอะมาก เห็นเช่นนั้น นักกินนักเที่ยวนักลองอย่างเรา จะพลาดได้ไง … เผ็ดอร่อยถึงใจ ราคาเพียง 50 บาท
อิ่มฟินกันแล้ว เดินย่อยกันไป พวกเราใช้เวลากับตลาดนี้ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เตรียมออกเดินทางสู่อ่าวนาง เข้าที่พัก ชื่อ”ปกาสัยรีสอร์ท” Pakasai Resort
ถึงกันแล้ว ปกาสัยรีสอร์ท เวลาโดยประมาณ ?21:00 น. GPS พาหลงไปเล็กน้อยจนถึงปานกลาง ก็ทำให้เสียเวลากันไป
ห้องพักกว้างมากคะ ปลั๊กไฟไม่ต้องเป็นกังวล เรียกได้ว่ามา 4 คน ก็ไม่แย่งกัน เพราะมีหลายจุด ประกอบกับห้องพักกว้างมาก นอนสบายๆ แยกกันคนละมุมกันไปได้เลย 555+
นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ….. เที่ยวกระบี่แบบ Greens Greens วันแรก
โปรแกรมวันที่สอง (เกาะห้อง ทะเลใน เกาะผักเบี้ย เกาะเหลาดาล่าดิง แถมทะเลาแหวก) ราคา 2,800 บาท เป็นเหมาเรือหางยาว (ONE DAY TRIP)
คำเตือน โปรดเซฟ เบอร์พี่เกียรติ 093-625-3257 เอาไว้ถ้าต้องการโปรแกรมดำน้ำ ทุกรูปแบบ ที่อ่าวนาง จังหวัดกระบี่นี้
เตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนดำน้ำ ก็ต้องอิ่มกาย สบายท้อง ที่ห้องอาหารยามเช้ามาก เพราะเรานัดพี่เกียรติไว้ 8:00 น.
7:20 น โดยประมาณ คณะเราก็พร้อมหม่ำอาหารเช้า ที่มีหลากหลายประเภทอาหารให้เลือกหม่ำ บรรยากาศก็ดีเยี่ยม ต้นไม้มากมาย
EGG CORNER เลือกหม่ำไข่ได้ตามใจชอบ
“คนละมุมเดียวกัน” ที่ป้ายด้านหน้าของ ปกาสัยรีสอร์ท แห่งนี้ ยิ้มสดชื่น ต้อนรับทริปกันยาวๆ ที่อ่าวนาง กระบี่
จากปกาสัยรีสอร์ท มุ่งหน้า “ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา” ใช้เวลาขับรถประมาณ 15 นาที จอดรถที่ท่าเรือได้เลย ปลอดภัยคะ มีที่อำนวยความสะดวกให้จอด ^ ^
พร้อมออกเรือ ดำน้ำกันแล้ว จุดแรกที่แวะ “เกาะห้อง”
น้ำทะเลช่วงที่เราไป ไม่ใช่ช่วงที่สวยที่สุด เนื่องจากเจอฝน มาน้ำจะออกขุ่น กว่าช่วงต้นๆปี แต่ก็ใสเห็นตัวปลา และ แมงกะพรุนชัดเจนสุดๆ ^ ^
โฉมหน้านักดำน้ำ ตัวยง ครบทั้ง 3 คน ?แนะนำ ชื่อเสียงเรียงนามกันเสียหน่อย >> เริ่มจากซ้ายไปขวา “ชิว” (Chill Journey) – “ดาว” (Daopentor) – “มด” (นักรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ควบตำแหน่ง ตากล้อง ทีม Daopentorpage)
ปลาการ์ตูนเพียบเลยคะ
ดูฟิน และ มีความสุขมาก ขณะฝูงปลามาล้อมรอบตัวคุณมด 555+
ประมาณ 16.00 น.เราก็กลับขึ้นฝั่ง พร้อมเตรียมเดินทางมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกระบี่อีกครั้ง มาเดินเที่ยวกิจกรรม “ปั่น ปลูก เปรม” ที่จัดขึ้นที่ลานกิจกรรมปูดำ
เนื่องจากเวลาที่คณะเรากลับมาไม่ทัน กับกิจกรรม ปั่น และ ปลูก เราจึง สามารถทำได้แค่เพียง 1 กิจกรรม ระนั่นคือ “เปรม” มันเป็นกิจกรรมที่ถนัดที่สุดแล้ว คริคริ
Krabigogreen ชวนกัน ปั่น-ปลูก-เปรม >> https://www.facebook.com/krabigogreen ?นี่คือรายละเอียดกิจกรรมของจังหวัดกระบี่ ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 30 ?พฤษภาคม เป็นวันเดียวกับที่คณะเราไปเที่ยวพอดี ^ ^
เมื่อขับรถมาถึงหน้าลานจัดกิจกรรม เก็บวิวก่อนเลย อันนี้เป็นวิว”เขาขนาบน้ำ” ที่ถือเป็นอีกสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่
นัดเจอกับพี่แอน เป็นเกียรติถ่ายภาพกัน จากตัวแทนการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ที่ลานจัดงาน Krabigogreen
จุด ?hot hot รอจังหวะไม่มีคน “ลานอนุสาวรีย์ปูดำ”
ช่วงเย็นเราก็นัดกับทางพี่ๆทีมงานการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปรมมื้อเย็นกันที่ร้าน “เรือนจันทน์”
บรรยากาศร้านนั่งสบายมาก กว้าง ต้นไม้ร่มรื่น มีลักษณะโครงร่างเป็นเรือ
เมนูที่สั่งกันวันนี้ ได้รับคำแนะนำจากพี่เจ้าของร้านทั้งนั้น เค้าตั้งใจทำมาก เจ้าของร้านทำเอง กรรมวิธี รวมถึง ขั้นตอนวัตถุดิบต่างๆ ช่างแลดูเยอะ สำหรับคนทำ ส่วนคนกินก็ฟินกันไป ^ ^
เมนูแรกกันเลย?
“ใบเหนียงผัดไข่” เมนูธรรมดา แต่ขอบอก มาร้านนี้ไม่สั่งไม่ได้นะจ้า
อีกจามแนะนำ “ต้มโคล้งไก่บ้าน” มีระกำ ใบมะกรูด ตะไคร้ เป็นสมุนไพร ซึ่งมันเข้ากั้น เข้ากัน จามนี้ไม่เหลือแม้แต่น้ำ 555+
“ต้มหมูซีอิ้ว” ต้องการลิ้มรส ขอเรียนเชิญ สั่งทางร้านล่วงหน้านะคะ เพราะมีโอกาสหมดสูงมาก ถ้าไปแล้วอดจะเสียดายแทน โทรไปแจ้งไว้ง่ายๆคะ มีเบอร์ให้ไว้ด้านล่างกันแล้ว ^ ^
เบอร์ติดต่อร้าน : 075-636-595,087-004-6433
เปิดบริการ : 11:00 – 24:00 ?น.
ที่ตั้ง : ตำบลเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
หลังจากอิ่มกันทั่วหน้า ที่ร้านเรือนจันทร์ เราก็เดินย่อย กันต่อที่“ตลาดคนเดินเหนือคลอง” ซึ่งอยู่ด้านหลังศาลเจ้า สามารถเอารถจอดที่ร้านแล้วเดินไปได้เลย ใช้เวลาแค่นิดเดียว ประมาณ 100 เมตร ได้คะ จากตลาดกับร้านเรือนจันทร์
ตลาดคนเดินเหนือคลอง จากที่เราไปเดินเล่นมาได้ 1 ชั่วโมง ก็ขอสรุปให้ว่า คล้ายตลาดนัดถนนคนเดินทั่วๆไป แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับตลาดนี้ มีเอกลักษณ์ความเป็นวิถีชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งก็หาดูไม่ง่ายนัก ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นการแสดงพื้นเมือง อาหารพื้นเมือง เป็นต้น
ไม่ได้กินมานานมากแล้ว … ขอต่อคิวอุดหนุนคุณยายกันหน่อย ^ ^
ได้แต่เก็บภาพ ร้านขนมจีนไว้ เป็นคลัง เผื่อมาเที่ยวกระบี่อีก จะแวะมาหม่ำ แต่ครั้งนี้รับประทานไม่ไหวจริงๆ
ปิดท้ายอีกวันกันที่ภาพ”ตลาดคนเดินเหนือคลอง” จังหวัดกระบี่
วันปิดทริป วันนี้ไม่เร่งรีบอะไร ก็นอนเตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ที่ปกาสัย รีสอร์ท ให้คุ้มค่ากันหน่อย 555+
พร้อมรวมตัวกันที่ ห้องอาหารเช้า?Breakfast งามๆ
เดินย่อยบริเวณรอบๆรีสอร์ทกันหน่อย เพราะ 2 วันที่ผ่านมา กว่าจะกลับเข้ามาก็ค่ำ ทุกวัน
ห้องรับรองข้างๆ ห้องอาหารเช้า เดินออกมาก็เห็น โดดเด่น ไปนั่งอยู่ 5 ?นาที ก็ขอขึ้นไปเก็บภาพสระว่ายน้ำ ด้านบนกันเสียหน่อย
เห็นสระว่ายน้ำ ก็เกิดความอยากจะว่ายขึ้นมาทันใดนั้นเอง เสียดายสุดๆ มาสำรวจเอาวันที่ 3 ?ต้องกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว ถามพนักงานว่ามีบริการ ?wifi ไหม น้องตอบ “มีครับ” อืมพี่นี่ซึมไปจริงๆ วันหลังมาเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ใหม่ ขอลงสระว่ายน้ำก่อนเลย หุหุ
หลัง Check Out ที่ปกาสัย รีสอร์ท กันแล้ว ก็วางแผนเรื่องเวลาและโปรแกรมทั้งหมดในวันนี้ พร้อมทั้งเตรียมแวะเติมน้ำมัน คืนรถที่ได้เช่าไว้
โปรแกรมวันกลับ
1.แวะร้านขนมจีนแม่แวว (เรื่องกินแก๊งส์นี้แลดู สู้ไม่ถอย)
2.ซื้อของฝาก
3.ทำบุญไหว้พระวัดถ้ำเสือ
4.สปา
ร้านขนมจีนแม่แวว อยู่เส้นถนนวิ่งไปอ่างนาง ถ้ามาจากตัวเมืองกระบี่ จะถึงร้านก่อน ปั้มปตท
เลือกแวะร้านจี้ออ เนื่องจากเป็นทางผ่านจาก การเดินทางอ่าวนาง ไปเข้าตัวเมืองกระบี่
มีสารพัดครบสิ่งที่ต้องการ หลักๆก็ซื้อเป็นประเภทน้ำพริก กระปุกไปฝากคนกรุงเทพฯ
วัดถ้ำเสือ
เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนวัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ เห็นแล้วต้องร้องโอ้โห >> เป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ ร่มรื่นต้นไม้เยอะ ลานจอดรถก็กว้างขวาง ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและประชาชนในจังหวัดกระบี่ และในบริเวณวัดก็ยังมีบางส่วนที่กำลังสร้างใหม่
คณะเราก็ได้ทำบุญหล่อระฆัง ที่วัดถ้ำเสือ ที่ไปด้วยร่วมกับผู้คนที่เข้ามากราบไหว้
อิ่มบุญจากวัดถ้ำเสือ กันทั่วหน้าแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปสัมผัสแหล่งน้ำพุร้อนของจังหวัดกระบี่กันก่อนเข้า”สนามบินกระบี่”
“ณัฐฐาวารี-น้ำพุร้อน”
แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติเน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งมีบริการในรูปแบบห้องพักหรือจะต้องการมาแช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพเป็นครั้งๆไปก็ได้ เช่นกัน
พวกเราก็เดินสำรวจกันอยู่นาน เพราะมีหลายบ่อมาก ซึ่งทางพนักงานก็นะนำว่า วิธีการลงแช่นั้นก็ต้องไล่อุณหภูมิจากร้อนน้อยไปจนถึงร้อนมากๆ ตามบ่อกันด้วยนะคะ เพื่อปรับสภาพร่างกายกันก่อน
ไปมุ่งหน้าสู่สนามบินกระบี่กัน พร้อมบินไปกับนกแอร์ สู่ปลายทางดอนเมือง (ไว้กลับมาใช้บริการใหม่นะคะ)
สำหรับทริปนี้ ขอขอบคุณ พี่แอนพี่ก้อยและทีมงานการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ โดยส่วนตัวมีความสุข สนุก กับการท่องเที่ยวประเทศไทยอีกทริป และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ >> เพื่อนร่วมทริปที่เป็นคู่หูกันมานาน “มด” และ “น้องชิว” ที่เพิ่งมาร่วมทริปกันครั้งแรก แต่ไม่น่าเชื่อว่าเราก็กลมกลืนกันอย่างลงตัว น้องให้ความรู้เรื่องการถ่ายภาพกับพี่มดพี่ดาว ไปหลายอย่างเลยทีเดียว ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในเรื่องการเดินทางอย่างลงตัว ทริปนี้เราทั้งเจอหอยเม้นตำเท้า และผู้ร่วมทริปป่วยกันเล็กน้อย ก็เรียกได้ว่า มันคือรสชาติของนักเดินทาง ที่พร้อมจะเปิดใจกับการเดินทางครั้งใหม่ๆเสมอ …. หลงรักประเทศไทย
Next Trip จะเป็นที่ไหน ขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ติดตาม & เป็นกำลังใจ ให้ Daopentor และมด ทีมงาน Daopentorpage ผู้อยู่เบื้องหลังในความสุข สนุก ตลอดการเดินทาง ^ ^
No Comment